๑. ค่านิยมการใช้สินค้าต่างประเทศ
๒. ความเห็นแก่เงิน การเห็นแก่เงินเช่นนี้ ทำให้คนไม่มีคุณค่าและสังคมยุ่งเหยิง เช่น ผู้หญิงบางคนที่เห็นแก่เงินก็จะ ยอมขายตัวกลายเป็นโสเภณีและตำรวจจราจรยอมรีดไถเงินจากผู้ใช้รถใช้ถนน เป็นต้น
๓. การใช้อำนาจในทางที่ผิด
๔. การรักพวกพ้องในทางที่ผิด
๕. ขาดความกระตือรือร้น
๖. ขาดระเบียบวินัย
๗. รักความสนุกสนาน
๘. เชื่อถือโชคลาง “การเสี่ยงโชค” ก็เป็นอีกค่านิยมหนึ่งที่ไม่น่านิยม เพราะเป็นความอยากรวย แต่ไม่ทำงาน เช่น ซื้อลอตเตอรี่ แทงหวย และเล่นการพนัน ฯลฯ
๙. ชอบความฟุ่มเฟือย หรูหรา เป็นค่านิยมที่ผิด
๑๐. ไม่ชอบขัดใจใคร เป็นเพราะมีความเกรงใจ
๑๑. ค่านิยมความสะดวกสบาย คนไทยส่วนใหญ่มีค่านิยมชอบ “ความสะดวกสบาย”
๑๒. ค่านิยมปัจเจกภาพ
๑๓. ค่านิยมชอบสอดรู้สอดเห็นหรือไทยมุง
๑๔. ค่านิยมเกี่ยวกับตัวใครตัวมัน เกิดจากสภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง
วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2553
งานวิจัยเกี่ยวกับค่านิยมทางจริยธรรม (ปัญญฎา ประดิษฐบาทุกา)
รายงานการวิจัย
เรื่อง ค่านิยมทางจริยธรรมของนักศึกษาครูชั้นปีที่ 2 (หลักสูตร 5 ปี)
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
ผู้วิจัย นางสาวปัญญฎา ประดิษฐบาทุกา
ปีพ.ศ.2548
ทุนสมาคมนักวิจัยแห่งชาติครั้งที่ 3
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ เพื่อหาระดับค่านิยมทางจริยธรรม 5 ด้านของนักศึกษานักศึกษาครู และเพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลและปัจจัยสนับสนุนกับค่านิยมทางจริยธรรม 5 ด้านของนักศึกษาครู โดยประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักศึกษาครูชั้นปีที่ 2 (หลักสูตร 5 ปี) คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษมที่ศึกษาในสาขาวิชาเอกคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ สังคมศึกษา ศิลปกรรม และการศึกษาปฐมวัย ซึ่งการเก็บรวบรวมข้อมูลใช้เครื่องมือ 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นแบบสอบถามข้อมูลส่วนตัว และส่วนที่สองเป็นแบบสอบถามค่านิยมทางจริยธรรม 5 ด้านของนักศึกษาครู ประกอบด้วย ด้านความเมตตากรุณา ความซื่อสัตย์ ความขยันหมั่นเพียร ความมีวินัย และความอดทนอดกลั้น และการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และ (Chi-Square Test)
ผลการวิจัย ค้นพบดังนี้
1. นักศึกษาครูชั้นปีที่ 2 (หลักสูตร 5 ปี) มีค่าเฉลี่ยของค่านิยมทางจริยธรรมเท่ากับ 1.7 ถือว่ามีค่านิยมทางจริยธรรมระดับ “ปานกลาง”
2. ปัจจัยส่วนบุคคลและปัจจัยสนับสนุน มีความสัมพันธ์กับค่านิยมทางจริยธรรม 5 ด้านของนักศึกษาครูชั้นปีที่ 2 (หลักสูตร 5 ปี) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 พบว่า ด้าน ความเมตตากรุณา มี 6 ปัจจัย ได้แก่ เพศ สาขาวิชา ลำดับการเกิด รายได้ของผู้อุปการะ อาชีพของบิดา และการศึกษาของบิดา ด้านความซื่อสัตย์สุจริต มี 5 ปัจจัย ได้แก่ เพศ สาขาวิชา ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ลำดับการเกิด และอาชีพของมารดา ด้านความขยันหมั่นเพียร มี 5 ปัจจัย ได้แก่ เพศ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สภาพครอบครัว ลำดับการเกิด และการศึกษาของมารดา ด้านความมีวินัย พบว่า มี 3 ปัจจัย ได้แก่ เพศ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และสภาพครอบครัว และด้านความอดทนอดกลั้น มี 8 ปัจจัย ได้แก่ ภูมิลำเนา สาขาวิชา สภาพครอบครัว ค่าใช้จ่ายส่วนตัวของนักศึกษา (ไม่รวมค่าที่พักอาศัย) การพักอาศัยกับบุคคล ผู้อุปการะ รายได้ของผู้อุปการะ และอาชีพของมารดา
เรื่อง ค่านิยมทางจริยธรรมของนักศึกษาครูชั้นปีที่ 2 (หลักสูตร 5 ปี)
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
ผู้วิจัย นางสาวปัญญฎา ประดิษฐบาทุกา
ปีพ.ศ.2548
ทุนสมาคมนักวิจัยแห่งชาติครั้งที่ 3
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ เพื่อหาระดับค่านิยมทางจริยธรรม 5 ด้านของนักศึกษานักศึกษาครู และเพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลและปัจจัยสนับสนุนกับค่านิยมทางจริยธรรม 5 ด้านของนักศึกษาครู โดยประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักศึกษาครูชั้นปีที่ 2 (หลักสูตร 5 ปี) คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษมที่ศึกษาในสาขาวิชาเอกคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ สังคมศึกษา ศิลปกรรม และการศึกษาปฐมวัย ซึ่งการเก็บรวบรวมข้อมูลใช้เครื่องมือ 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นแบบสอบถามข้อมูลส่วนตัว และส่วนที่สองเป็นแบบสอบถามค่านิยมทางจริยธรรม 5 ด้านของนักศึกษาครู ประกอบด้วย ด้านความเมตตากรุณา ความซื่อสัตย์ ความขยันหมั่นเพียร ความมีวินัย และความอดทนอดกลั้น และการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และ (Chi-Square Test)
ผลการวิจัย ค้นพบดังนี้
1. นักศึกษาครูชั้นปีที่ 2 (หลักสูตร 5 ปี) มีค่าเฉลี่ยของค่านิยมทางจริยธรรมเท่ากับ 1.7 ถือว่ามีค่านิยมทางจริยธรรมระดับ “ปานกลาง”
2. ปัจจัยส่วนบุคคลและปัจจัยสนับสนุน มีความสัมพันธ์กับค่านิยมทางจริยธรรม 5 ด้านของนักศึกษาครูชั้นปีที่ 2 (หลักสูตร 5 ปี) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 พบว่า ด้าน ความเมตตากรุณา มี 6 ปัจจัย ได้แก่ เพศ สาขาวิชา ลำดับการเกิด รายได้ของผู้อุปการะ อาชีพของบิดา และการศึกษาของบิดา ด้านความซื่อสัตย์สุจริต มี 5 ปัจจัย ได้แก่ เพศ สาขาวิชา ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ลำดับการเกิด และอาชีพของมารดา ด้านความขยันหมั่นเพียร มี 5 ปัจจัย ได้แก่ เพศ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สภาพครอบครัว ลำดับการเกิด และการศึกษาของมารดา ด้านความมีวินัย พบว่า มี 3 ปัจจัย ได้แก่ เพศ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และสภาพครอบครัว และด้านความอดทนอดกลั้น มี 8 ปัจจัย ได้แก่ ภูมิลำเนา สาขาวิชา สภาพครอบครัว ค่าใช้จ่ายส่วนตัวของนักศึกษา (ไม่รวมค่าที่พักอาศัย) การพักอาศัยกับบุคคล ผู้อุปการะ รายได้ของผู้อุปการะ และอาชีพของมารดา
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)